ทรัพยากรป่าไม้
จากการศึกษาชนิดสังคมพืชของไม้ต้น (tree) และลูกไม้ (sapling) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ดอยสอยมาลัย – ไม้กลายเป็นหิน (เตรียมการ) จำแนกเป็นสังคมพืชป่าดิบเขาต่ำ เนื้อที่ 3.59 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 1.0 สังคมพืชป่าดิบแล้ง เนื้อที่ 34.39 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 9.7 สังคมพืชป่าเบญจพรรณ เนื้อที่ 221.33 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 62.3 สังคมพืชป่าเต็งรัง เนื้อที่ 91.67 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 25.8 ทุ่งหญ้า เนื้อที่ 3.94 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 1.1 และแหล่งน้ำ เนื้อที่ 0.5 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 0.1 ดังตารางที่ 3 และภาพที่ 8 แผนที่แสดงสังคมพืชป่าไม้
ผลการศึกษาค่าดัชนีความสำคัญของพันธุ์ไม้แต่ละชนิดในประเภทสังคมพืชป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง พบพรรณไม้ทั้งสิ้นจำนวน 72 วงศ์ 205 สกุล 265 ชนิด จัดอยู่ในกลุ่มไม้ต้น จำนวน 40 วงศ์ 73 สกุล 87 ชนิด กลุ่มไม้พื้นล่าง จำนวน 65 วงศ์ 183 สกุล 237 ชนิด (เทียมหทัย, 2560)
จากการศึกษาไม้ต้นในแปลงตัวอย่าง พบพันธุ์ไม้ทั้งหมด 87 ชนิด โดยชนิดที่มีค่าดัชนีความสำคัญสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ เต็ง (Shorea obtuse) แดง (Xylia xylocarpa) รัง (Shorea siamensis) อ้อยช้าง (Lannea coromandelica) และตะแบก (Lagerstroemia floribunda Jack) ซึ่งมีค่าดัชนีความสำคัญเท่ากับ 41.90, 35.36, 21.63, 18.83 และ 12.41 ตามลำดับ การศึกษาไม้พื้นล่าง พบพันธุ์ไม้ทั้งหมด 237 ชนิด โดยชนิดที่มีค่าดัชนีความสำคัญสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ ตีนตุ๊กแก (Selaginella sp.) Fimbristylis sp. และกระดุมใบ (Borreria laevis L.) ซึ่งมีค่าดัชนีความสำคัญเท่ากับ 9.89, 7.25 และ 5.46ตามลำดับและจากการศึกษาลูกไม้ในแปลงตัวอย่างพบพรรณไม้ทั้งหมด 36 ชนิด โดยชนิดที่มีค่าดัชนีความสำคัญสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กระทุ่มเนิน (Mitragyna routndifolia (Roxb.) Kuntze) มะขามป้อม (Phyllanthus emblica L.) สารภี (Mammea siamensis (Miq.) T. Anderson) กระบก (Irvingia malayana Oliv. ex A.W. Benn.) และแก้วมือไว (Pterolobium integrum Craib) โดยมีค่าดัชนีความสำคัญ 3.50, 3.43, 3.36, 2.90 และ 2.67 ตามลำดับ
ทรัพยากรสัตว์ป่า
1) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
จากการพิจารณาสถานภาพของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ได้รวบรวมจากเอกสารและการสำรวจในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พบสัตว์ป่าสงวน 2 ชนิด ได้แก่ เลียงผา (Capricornis) และกวางผา (Naemorhedus) สัตว์ป่าคุ้มครอง 13 ชนิด ได้แก่ เก้งธรรมดา (Muntiacus muntjac) กระทิง (Bos gaurus) ชะมดแผงหางปล้อง (Viverra zibetha) พังพอนกินปู (Herpestes urva) หมีหมา (Helarctos malayanus) พังพอนเล็ก (Herpestes javanicus) หมูหริ่ง (Arctonyx collaris) หมาใน (Cuon alpinus) ชะนีมือขาว (Hylobates lar) กระต่ายป่า (Lepus peguensis) กระรอกสามสี (Callosciurus prevostii) เม่นใหญ่แผงคอยาว (Hystrix brachyura) และเสือดาว (Panthera pardus)
2) สัตว์เลื้อยคลาน
จากการพิจารณาสถานภาพของสัตว์เลื้อยคลานที่ได้รวบรวมจากเอกสารและการสำรวจในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พบสัตว์ป่าคุ้มครอง 7 ชนิด ได้แก่ ตุ๊กแกป่า (Cyrtodactylus variegatus) ตุ๊กแกบ้าน (Gekko gecko) ตะกวด (Varanus bengalensis) งูสิง (Ptyas) งูจงอาง (Ophiophagus hannah) กิ้งก่าดงคอฟ้า (Gonocephalus belli) และกิ้งก่าแก้ว (Calotes emma)
3) สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
จากการพิจารณาสถานภาพของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่ได้รวบรวมจากเอกสาร และการสำรวจในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พบสัตว์ป่าคุ้มครอง 2 ชนิด ได้แก่ กะท่าง (Salamandridae) และกบทูด/เขียดแลว (Limnonectds blythii)
4) นก
จากการพิจารณาสถานภาพของนกที่ได้รวบรวมจากเอกสารและการสำรวจในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พบนกที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง 272 ชนิด อาทิ นกคุ่มอกลาย (Turnix suscitator) นกกระทาดงคอสีแสด (Arborophila rufogularsis) ไก่ฟ้าหลังเทา (Lophura leucomelanos) นกโพระดกคางเหลือง (Psilopogon lineatus) นกเค้าป่าสีน้ำตาล (Strix leptogrammica) นกเปล้าหางเข็ม (Treron apicauda) นกกก/นกกาฮัง (Buceros bicornis) เหยี่ยวนกกระจอกใหญ่ (Accipiter nisus) อีแร้งสีน้ำตาลหิมาลัย (Gyps himalayensis) นกนิลตวาใหญ่ (Niltava grandis) นกติ๊ดแก้มเหลือง (Machlolophus spilonouts) นกปรอดลาย (Alcurus striatus) และนกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า (Aethopyga gouldiae) เป็นต้น

